น้ำมันงาสกัดเย็นกับการบรรเทาอาการปวด
อาการปวด เป็นภาวะที่คู่กับคนเรามาช้านาน มักมาตามความเสื่อมและถดถอยของร่างกาย มีสาเหตุได้หลายอย่าง การรักษาอาการปวดมีหลายวิธี ตั้งแต่การรับประทานยาแผนปัจจุบันหลากหลายชนิด การบริหารร่างกายหรือกายภาพบำบัด จนถึงการรักษาตามการแพทย์พื้นบ้าน แพทย์แผนโบราณ
น้ำมันงาสกัดเย็นเป็นน้ำมันที่ใช้ในทางการแพทย์พื้นบ้านมาเป็นระยะเวลานาน และในหลายพื้นที่ทั่วโลกเช่นในประเทศจีน ไต้หวัน ตะวันออกกลาง ในประเทศไทยเองก็มีตำหรับยานวดหลายชนิดที่มีน้ำมันงาเป็นส่วนประกอบเช่น น้ำมันเหลือง น้ำมันขัดมอน น้ำมันสมานกระดูก การศึกษาในปัจจุบันพบว่าในน้ำมันงามีคุณสมบัติที่สำคัญคือ ต้านการอักเสบ บรรเทาอาการปวด ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และต้านแบคที่เรีย
มีการทดลองที่น่าสนใจอันหนึ่งที่ทดสอบถึงการใช้น้ำมันงาบริสุทธิ์ 100 % ในการทาบรรเทาอาการปวด โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง 150 คน ที่มีอาการปวดภายหลังจากประสบอุบัติเหตุ นำผู้ป่วยมาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 75 คน โดยให้การดูแลรักษาและจัดยาให้เหมือนกันทั้งสองกลุ่ม แต่เพิ่มการทานวดด้วยน้ำมันงาในบริเวณที่มีอาการปวดวันละครั้งสำหรับกลุ่มที่หนึ่ง(กลุ่มทดลอง) ส่วนกลุ่มที่สองไม่ได้รับการทานวดด้วยน้ำมันงา(กลุ่มควบคุม)
หลังจากนั้นประเมินระดับอาการปวดและปริมาณยาแก้ปวดที่ทั้งสองกลุ่มใช้เมื่อเวลาผ่านไป 10 วัน พบว่ากลุ่มที่ทานวดด้วยน้ำมันงามีระดับอาการปดลดลงมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้น้ำมันงาอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่วันที่สามของการทดลอง นอกจากนั้นยังมีการร้องขอยาแก้ปวดน้อยกว่า ผู้วิจัยให้ความเห็นว่าควรจะมีการนำน้ำมันงามาใช้บรรเทาอาการปวดร่วมกับการดูแลตามการแพทย์แผนปัจจุบัน เนื่องจากมีความปลอดภัย ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และลดการใช้ยาแก้ปวดซึ่งมีผลข้างเคียงต่างๆลงได้
หากผู้อ่านสนใจอ่านงานวิจัยต้นฉบับคลิกไปดูได้ที
สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่